ตรวจและวางแผนการรักษา

การตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากที่จะทำให้เราทราบถึงสาเหตุของปัญหาสุขภาพช่องปากต่างๆ

เช่น มีกลิ่นปาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันเปลี่ยนสี เลือดออกเวลาแปรงฟัน ปวดฟัน เป็นต้นโดยอาการเหล่านี้สามารถพบได้เมื่อเรามีปัญหาหรือโรคในช่องปากของเรา

การตรวจสุขภาพช่องปากนั้นควรทำเป็นประจำทุก 6 เดือน

เนื่องจากการพบโรคหรือปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะเริ่มต้น

จะทำให้สามารถจัดการและดูแลรักษาได้ไม่ซับซ้อนเท่ากับรอยโรคที่มีการพัฒนาไปมาก

นอกจากนี้การตรวจสุขภาพช่องปากยังทำให้เราอาจพบปัจจัยเสี่ยง

ที่สามารถก่อให้เกิดโรคได้ในอนาคต

การพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก

จะทำให้เราได้รับคำแนะนำในการดูแลป้องกันสุขภาพช่องปาก

รวมถึงสามารถพูดคุยกับทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเราได้

การตรวจและวางแผนการรักษา แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

1) การตรวจแบบครอบคลุม (Comprehensive examination)

ผู้มารับบริการส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีอาการฉุกเฉิน ควรจะได้รับการตรวจประเภทนี้ ซึ่งเป็นการตรวจวิเคราะห์สุขภาพ

ร่างกายของผู้มารับบริการ พูดคุยปัญหาที่กังวล ถ่ายภาพรังสีฟันและเนื้อเยื่อโดยรอบฟัน ตรวจภายนอกช่องปาก

และภายในช่องปาก เพื่อตรวจประเมินทางคลินิกของเนื้อเยื่ออ่อนและเนื้อเยื่อแข็งบริเวณช่องปาก

2) การตรวจแบบเป็นระยะ (Periodic examination)

เป็นการตรวจประเมินเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยมักจะเป็นการตรวจตามนัด หลังจากที่ดูแลรักษาตามแผนการรักษาแรกเสร็จเรียบร้อย เพื่อตรวจประเมิน ติดตามผล หรือดูเพิ่มเติมว่า หลังจากที่รักษาเสร็จแล้ว ได้มีปัญหาสุขภาพช่องปากอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

3) การตรวจตามปัญหาที่มา (Problem-focused examination)

เป็นการตรวจประเมินปัญหาหรือความกังวลของผู้มารับบริการอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น อาการปวด บวม ฟันหัก หรือวัสดุแตก เป็นต้น โดยการตรวจแบบนี้จะมุ่งเน้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานั้นๆ

คลินิกทันตกรรมเมเปิ้ล เรามุ่งเน้นที่จะรักษาคนไข้แบบองค์รวมและครอบคลุมทุกปัญหาสุขภาพช่องปาก

หากท่านมีปัญหาสุขภาพช่องปากหรือต้องการเริ่มดูแลสุขภาพช่องปาก สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษากับทันตแพทย์ของคลินิกทันตกรรมเมเปิ้ล

ติดต่อนัดหมาย